สมุนไพร คือยาวิเศษที่มีมาแต่ช้านานแสนนาน
ถึงแม้ในปัจจุบัน สมุนไพร จะถูกยาสมัยใหม่แทนที่ในช่วงหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้น สมุนไพร ก็กลับเข้ามาเจิดจรัสอีกครั้งในยุคที่มนุษย์โหยหาธรรมชาติ
จริงอยู่...โลกเราสกปรกมากขึ้นทุกวัน มลพิษมากขึ้นทุกวัน ใครจะรู้ว่าในวันๆหนึ่งเราต้องเสพสารพิษ มลพิษรอบตัวไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ นานขนาดไหนจนเราไม่รู้เลยว่า ตอนนี้มนษย์เรามีภาวะสุขภาพกึ่งแข็งแรงเป็นโรคยอดฮิต แต่ถึงอย่างนั้นมนุษย์เราก็ยังไม่เคยยอมธรรมชาติ เสาะแสวงหาสิ่งที่จะทำให้สุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัย และสุดท้ายมนุษย์ก็หันกลับเข้าธรรมชาติ
แต่ถึงอย่างไร สมุนไพรจากธรรมชาติ ในบางครั้งก็ใช่ว่าจะได้ประโยชน์เสมอไป หากบริโภคมากไปกลับได้โทษเสียเปล่า คราวนี้...เราจะบริโภคอย่างไร ให้ได้คุณค่าสมุนไพรมากที่สุด
เคล็ดลับการเตรียมสมุนไพรควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
- การเลือกสมุนไพร ที่จะนำมาทำน้ำสมุนไพร ถ้าเป็นสมุนไพรสด ต้องเลือกที่สด เก็บมาจากต้นใหม่ๆ ตามฤดูกาล สีสันเป็นธรรมชาติตามชนิดของสมุนไพร ไม่มีรอยช้ำเน่า สมุนไพรที่สดใหม่ช่วยให้ได้คุณค่าทางโภชนาการสูง สีสันน่ารับประทาน ถ้าเป็นสมุนไพรแห้ง ควรเลือกสมุนไพรที่ใหม่สะอาด ดูลักษณะ สี กลิ่น และไม่มีเชื่อรา
- ความสะอาดของสมุนไพร ควรล้างให้ถูกวิธี ถ้าเป็นสมุนไพรแห้งจะต้องล้างอย่างน้อย 1-2 ครั้ง ถ้าเป็นสมุนไพรสด ควรล้างอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันสารเคมีและสิ่งปนเปื้อนที่ติดมา
- ภาชนะที่ใช้ จะต้องสะอาด เลือกให้เหมาะกับชนิดของสมุนไพร ภาชนะที่ต้มควรจะเป็นหม้อเคลือบ ไม่ควรใช้หม้ออลูมิเนียม เพราะอาจทำให้กรดที่อยู่ในสมุนไพรกัดภาชนะ ถ้าเป็นหม้อหรือกระทะทองเหลือง จะทำให้รสชาติของน้ำสมุนไพรเปลี่ยนไป นอกจากนี้การที่เราดื่มน้ำสมุนไพรที่มีโลหะหนักผสมอยู่ อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ สำหรับภาชนะที่บรรจุควรจะเป็นขวดแก้ว จะสะดวกในการนึ่งเพื่อฆ่าเชื้อโรค และน้ำสมุนไพรจะไม่ทำปฏิกิริยากับขวดแก้ว ภาชนะที่เป็นแก้วยังดูใสสะอาดน่าดื่มยิ่งขึ้น การนึ่งฆ่าเชื้อหลังจากล้างภาชนะที่บรรจุแล้ว ควรลวกหรือต้มด้วยน้ำเดือด แล้วผึ่งให้แห้งและเมื่อบรรจุแล้วควรนึ่งเพื่อฆ่าเชื้ออีกไม่น้อยกว่า 20-30 นาที ปล่อยให้เย็นแล้วจึงนำเข้าตู้เย็น ถ้าทำตามขั้นนี้จะสามารถเก็บได้นานถึง 2-3 สัปดาห์
วิธีดื่มและข้อควรคำนึงเกี่ยวกับน้ำสมุนไพร
ปัจจุบันมีผู้คิดค้นหาวิธีการรักษาโรคต่างๆ โดยใช้น้ำสมุนไพร ที่ทำจากผัก ผลไม่ ธัญพืชต่างๆ น้ำสมุนไพรบางชนิดดื่มลำบาก ในช่วงแรกของการดื่มอาจจะทำให้รู้สึกอึดอัด เนื่องจากรสชาติไม่ค่อยตรงกับรสนิยมของผู้ดื่ม แต่จะเป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น วิธีการดื่มที่ดี ควรดื่มแบบจิบช้าๆ และควรดื่มทันทีที่ปรุงเสร็จ เพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารและทางยา มากกว่าปล่อยทิ้งไว้นานแล้วดื่ม เนื่องจากจะทำให้คุณค่าลดลง
นอกจากนี้ยังสามารถทำดื่มได้ทั้งร้อนและเย็นตามความชอบของแต่ละบุคคล การดื่มน้ำสมุนไพรชนิดเดียวกันติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของ สารบางชนิดที่มีฤทธิ์ต่อร่างกายได้ การดื่มน้ำสมุนไพรร้อนๆ ที่มีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ขึ้นไปทำให้เยื่อบุผิวหลอดอาหารเสียสภาพภูมิคุ้มกัน เฉพาะที่และอาจทำให้มีการดูดซึมสารก่อมะเร็ง และจุลินทรีย์ได้ง่าย
นอกจากนี้ยังสามารถทำดื่มได้ทั้งร้อนและเย็นตามความชอบของแต่ละบุคคล การดื่มน้ำสมุนไพรชนิดเดียวกันติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของ สารบางชนิดที่มีฤทธิ์ต่อร่างกายได้ การดื่มน้ำสมุนไพรร้อนๆ ที่มีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ขึ้นไปทำให้เยื่อบุผิวหลอดอาหารเสียสภาพภูมิคุ้มกัน เฉพาะที่และอาจทำให้มีการดูดซึมสารก่อมะเร็ง และจุลินทรีย์ได้ง่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก โครงการเคมี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น